วิธีการตั้ง OKR พร้อมตัวอย่าง OKR ที่ใช้ได้จริง เป็นวิธีการบริหารจัดการที่ช่วยให้ทีมและองค์กรสามารถกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน พร้อมทั้งระบุผลลัพธ์ที่ต้องการได้อย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ วิธีการนี้ช่วยให้สามารถติดตามความคืบหน้าและปรับปรุงแผนการดำเนินงานได้ในระยะเวลาที่กำหนด การตั้ง OKR สามารถช่วยเพิ่มโฟกัสและมุ่งสู่เป้าหมายร่วมกันทั้งในระดับบุคคลและทีม
วิธีการตั้ง OKR พร้อมตัวอย่าง OKR ที่ใช้ได้จริง
การตั้ง OKR ประกอบไปด้วย 2 ส่วนหลัก คือ Objective (เป้าหมาย) และ Key Results (ผลลัพธ์ที่สำคัญ)
1. Objective (เป้าหมาย)
- Objective ควรเป็นสิ่งที่มีความทะเยอทะยาน แต่สามารถทำได้จริงในกรอบเวลาเฉพาะ (โดยทั่วไปจะตั้งเป้าหมายในระยะเวลา 1 ไตรมาสหรือ 1 ปี)
- ควรจะมีความกระชับและเข้าใจง่าย เป้าหมายควรสะท้อนถึงผลลัพธ์ที่ต้องการ และมีแรงบันดาลใจ
- ตัวอย่าง:
- เพิ่มการรับรู้ของแบรนด์ในตลาดใหม่
- พัฒนาคุณภาพของบริการลูกค้าให้ดีขึ้น
- เพิ่มยอดขายจากช่องทางออนไลน์
2. Key Results (ผลลัพธ์ที่สำคัญ)
- Key Results คือ ตัวชี้วัดที่ใช้วัดความสำเร็จของ Objective ที่ตั้งไว้
- ควรตั้งให้เป็นผลลัพธ์ที่สามารถวัดได้ (Quantifiable) เช่น การเพิ่มเปอร์เซ็นต์หรือจำนวนที่ชัดเจน
- Key Results จะช่วยกำหนดว่าเราจะประสบความสำเร็จได้อย่างไรและมีตัวเลขที่ชัดเจนเพื่อเปรียบเทียบ
- ตัวอย่าง:
- เพิ่มผู้ติดตามในโซเชียลมีเดีย 30%
- เพิ่มจำนวนลูกค้าที่ซื้อสินค้าซ้ำ 20%
- ลดเวลาในการตอบคำถามลูกค้าลง 15%
- เพิ่มอัตราการแปลงจากการโฆษณาออนไลน์ 10%
3. ตั้งค่าช่วงเวลา
- ช่วงเวลา OKR มักจะตั้งไว้ในช่วงไตรมาส (3 เดือน) หรือปี (12 เดือน)
4. ติดตามและประเมินผล
- ติดตามผลลัพธ์ ทำการตรวจสอบความก้าวหน้าเป็นระยะ ๆ
- ปรับเปลี่ยนตามความจำเป็น ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์หรือกิจกรรมหากพบว่าต้องการการปรับปรุง
5. สื่อสารและแบ่งปัน
- สื่อสารภายในทีม ให้สมาชิกในทีมเข้าใจ OKR และรู้ว่าพวกเขาจะมีส่วนร่วมอย่างไร
- แบ่งปันความก้าวหน้า รายงานความก้าวหน้าและผลลัพธ์อย่างสม่ำเสมอ
ตัวอย่าง OKR ที่ใช้ได้จริง
1. OKR สำหรับทีมการตลาด
Objective: เพิ่มการรับรู้แบรนด์และสร้างการมีส่วนร่วมในตลาด
- KR1: เพิ่มจำนวนผู้ติดตามในโซเชียลมีเดีย (Facebook, Instagram, LinkedIn) 40% ภายใน 6 เดือน
- KR2: เพิ่มการเข้าชมเว็บไซต์ใหม่ 30% จากการทำแคมเปญการตลาด
- KR3: เพิ่มอัตราการเปิดอีเมล (Open Rate) ของแคมเปญอีเมลเป็น 25%
- KR4: สร้างและเผยแพร่บทความบล็อกใหม่ 10 ชิ้น
2. OKR สำหรับทีมขาย
Objective: เพิ่มยอดขายจากลูกค้าปัจจุบันและลูกค้าใหม่
- KR1: เพิ่มยอดขายจากลูกค้าปัจจุบัน 25% ภายในไตรมาสนี้
- KR2: เพิ่มจำนวนลูกค้าใหม่ 50 ราย
- KR3: เพิ่มอัตราการปิดการขาย (Conversion Rate) จาก 18% เป็น 25%
- KR4: จัดการประชุมกับลูกค้าเป้าหมายใหม่ 30 ครั้ง
3. OKR สำหรับทีมพัฒนาเทคโนโลยี
Objective: ปรับปรุงและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่
- KR1: เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ 3 ฟีเจอร์ในผลิตภัณฑ์ภายในไตรมาสนี้
- KR2: ลดจำนวนข้อผิดพลาด (Bugs) ในผลิตภัณฑ์ลง 40%
- KR3: เพิ่มคะแนนความพึงพอใจของผู้ใช้ (User Satisfaction Score) เป็น 90%
- KR4: ดำเนินการทดสอบความสามารถของผลิตภัณฑ์ (Performance Testing) และแก้ไขปัญหาภายใน 2 สัปดาห์
4. OKR สำหรับผู้บริหาร
Objective: ขับเคลื่อนการเติบโตและการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพ
- KR1: เพิ่มรายได้รวมขององค์กร 20% ภายในปีนี้
- KR2: ลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานลง 15%
- KR3: สร้างและนำกลยุทธ์การตลาดใหม่มาใช้ใน 3 ตลาดใหม่
- KR4: เพิ่มระดับความพึงพอใจของพนักงาน (Employee Satisfaction) เป็น 85%
5. OKR สำหรับการพัฒนาบุคลากร
Objective: พัฒนาทักษะและความสามารถของทีมงาน
- KR1: จัดการฝึกอบรมและพัฒนาทักษะให้กับพนักงาน 100 ชั่วโมงภายในไตรมาสนี้
- KR2: เพิ่มอัตราการเข้าร่วมการฝึกอบรมของพนักงานเป็น 90%
- KR3: พัฒนาแผนการพัฒนาส่วนบุคคล (Individual Development Plans) สำหรับพนักงานทั้งหมด
- KR4: ลดอัตราการลาออกของพนักงานลง 10%