OKR กับ Agile เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานในองค์กร แต่มีหลักการและวิธีการที่แตกต่างกันในแนวทางการทำงานและการวัดผล ดังนี้:

1. OKR (Objectives and Key Results)

OKR (Objectives and Key Results) คือ ระบบการตั้งเป้าหมายและผลลัพธ์สำคัญที่ใช้ในการกำหนดทิศทางขององค์กร โดยการตั้ง Objective (เป้าหมาย) ที่ท้าทายและมุ่งเน้นความสำเร็จ และกำหนด Key Results (ผลลัพธ์สำคัญ) ที่สามารถวัดผลได้ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายเหล่านั้นในช่วงเวลาที่กำหนด เช่น ไตรมาส หรือ ปี

  • Objective (เป้าหมาย): เป้าหมายที่ท้าทายและต้องการบรรลุผลในช่วงเวลาที่กำหนด
  • Key Results (ผลลัพธ์สำคัญ): ตัวชี้วัดที่สามารถวัดผลได้ซึ่งช่วยในการติดตามและประเมินความสำเร็จของเป้าหมาย

ตัวอย่าง OKR:

  • Objective: เพิ่มประสิทธิภาพการบริการลูกค้า
    • Key Results:
      1. ลดเวลาการตอบกลับลูกค้าจาก 24 ชั่วโมงเป็น 12 ชั่วโมง
      2. เพิ่มคะแนนความพึงพอใจจากลูกค้าจาก 75% เป็น 90%
      3. เพิ่มการใช้ระบบออนไลน์ในการบริการลูกค้า 50%

2. Agile

Agile คือ แนวทางการทำงานที่เน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือการทำงานในลักษณะที่ยืดหยุ่น สามารถปรับตัวได้ง่าย และมีการตอบสนองอย่างรวดเร็วต่อความต้องการและปัญหาที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะในทีมพัฒนาซอฟต์แวร์หรือการดำเนินงานที่ต้องการการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

หลักการของ Agile ได้แก่:

  • การทำงานเป็นทีมขนาดเล็ก
  • การทำงานในช่วงเวลา สั้นๆ (เรียกว่า Sprint) เพื่อส่งมอบผลลัพธ์ที่สามารถตรวจสอบได้
  • การปรับตัวและการพัฒนาที่เน้นการเรียนรู้จากการทดสอบและการรีวิวอย่างสม่ำเสมอ

Agile มักใช้ในทีมที่ต้องการตอบสนองต่อความเปลี่ยนแปลงเร็ว และให้ความสำคัญกับการทำงานร่วมกันภายในทีม รวมถึงการปรับปรุงกระบวนการทำงานอย่างต่อเนื่อง

ตัวอย่างแนวทางการทำงานแบบ Agile:

  • ทีมงานทำงานใน Sprint ระยะเวลา 2 สัปดาห์
  • ในแต่ละ Sprint ทีมจะเลือกฟีเจอร์หรือส่วนของโครงการที่ต้องการพัฒนาและส่งมอบ
  • หลังจากทุก Sprint จะมีการ รีวิว และ ปรับปรุง กระบวนการทำงานเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
OKR กับ Agile

ความแตกต่างระหว่าง OKR กับ Agile

ด้านOKRAgile
แนวทางการทำงานใช้ในการตั้งเป้าหมายและผลลัพธ์ที่ต้องการบรรลุใช้ในการทำงานที่ยืดหยุ่นและการพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างรวดเร็ว
เป้าหมายมุ่งเน้นที่การตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนในระยะสั้นถึงระยะกลางมุ่งเน้นการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและการปรับตัวตามสถานการณ์
ระยะเวลามีการตั้งเป้าหมายในช่วงระยะเวลาสั้น เช่น ไตรมาสหรือปีทำงานในช่วงเวลาสั้น ๆ ที่เรียกว่า Sprint (ประมาณ 2-4 สัปดาห์)
การวัดผลวัดผลจากผลลัพธ์ที่สำคัญที่สามารถตรวจสอบได้การวัดผลจากการส่งมอบงานในแต่ละ Sprint ที่สามารถตรวจสอบได้
ความยืดหยุ่นยืดหยุ่นในการปรับปรุงเป้าหมายในแต่ละรอบ (ไตรมาส)เน้นความยืดหยุ่นในการทำงานและปรับตัวในกระบวนการพัฒนา
ประเภทของการดำเนินงานตั้งเป้าหมายเพื่อความสำเร็จในการทำงานหรือการบรรลุผลเน้นการพัฒนาอย่างยั่งยืนและการปรับปรุงกระบวนการทำงาน

ตัวอย่าง OKR

OKR (Objectives and Key Results) คือ การตั้งเป้าหมายและผลลัพธ์สำคัญที่ใช้ในการกำหนดทิศทางและวัดผล

สำหรับทีมการตลาด

  • Objective: เพิ่มยอดขายผลิตภัณฑ์ในไตรมาสนี้
    • Key Result 1: เพิ่มยอดขายออนไลน์จาก 5 ล้านเป็น 7 ล้าน
    • Key Result 2: เพิ่มอัตราการแปลงลูกค้าใหม่จาก 3% เป็น 5%
    • Key Result 3: เพิ่มการเข้าชมเว็บไซต์จาก 10,000 ครั้งต่อเดือนเป็น 15,000 ครั้งต่อเดือน

สำหรับทีมพัฒนาโปรแกรม

  • Objective: พัฒนาแอปพลิเคชันใหม่ที่ใช้งานง่ายและเสถียร
    • Key Result 1: ลดอัตราการ crash ของแอปจาก 2% เป็น 0.5%
    • Key Result 2: เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ 3 ฟีเจอร์ภายใน 3 เดือน
    • Key Result 3: ได้รับคะแนนจากผู้ใช้ใน App Store มากกว่า 4.5 ดาว

สำหรับ HR (ฝ่ายทรัพยากรมนุษย์)

  • Objective: สร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดีขึ้น
    • Key Result 1: ลดอัตราการลาออกของพนักงานจาก 15% เป็น 10%
    • Key Result 2: เพิ่มคะแนนความพึงพอใจของพนักงานจาก 80% เป็น 90%
    • Key Result 3: จัดกิจกรรมสร้างทีมภายในองค์กร 4 ครั้งในไตรมาสนี้

ตัวอย่าง Agile

Agile เป็นกระบวนการการทำงานที่เน้นความยืดหยุ่นและการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยทำงานในรอบสั้นๆ เรียกว่า Sprint ซึ่งสามารถนำไปใช้ในหลายแวดวง เช่น การพัฒนาโปรแกรม การตลาด หรือการบริหารโปรเจกต์

ตัวอย่างการใช้ Agile สำหรับทีมพัฒนาโปรแกรม (Software Development)

ในกรอบของ Agile, ทีมพัฒนาจะทำงานในช่วงเวลา Sprint ซึ่งมีระยะเวลาประมาณ 2-4 สัปดาห์ เพื่อพัฒนาและส่งมอบคุณสมบัติที่สามารถใช้งานได้

ขั้นตอนใน Agile:
  1. Planning: ทีมกำหนดสิ่งที่จะทำใน Sprint โดยอิงจาก Product Backlog (รายการคุณสมบัติหรือฟีเจอร์ต่างๆ ที่ต้องการพัฒนา)
  2. Sprint: ทีมพัฒนาจะทำงานในช่วงเวลาที่กำหนด โดยในแต่ละ Sprint จะมีการพัฒนาและส่งมอบฟีเจอร์หรือส่วนย่อยของระบบที่สามารถทดสอบได้
  3. Review: หลังจากเสร็จสิ้น Sprint ทีมจะทำการทบทวนฟีเจอร์ที่พัฒนาและรับฟีดแบ็คจากผู้เกี่ยวข้อง (เช่น ผู้ใช้หรือผู้บริหาร)
  4. Retrospective: ทีมจะทบทวนกระบวนการทำงานใน Sprint เพื่อปรับปรุงการทำงานใน Sprint ถัดไป

ตัวอย่างการทำงานใน Sprint:

  • Sprint 1 (2 สัปดาห์): พัฒนาฟีเจอร์การลงทะเบียนผู้ใช้ใหม่
    • ทำการวางแผนและออกแบบฟีเจอร์
    • พัฒนาระบบการลงทะเบียน
    • ทดสอบและตรวจสอบฟีเจอร์
    • ส่งมอบให้ผู้ใช้ทดลองใช้
  • Sprint 2 (2 สัปดาห์): พัฒนาฟีเจอร์การติดตามคำสั่งซื้อ
    • ออกแบบหน้าจอการติดตามคำสั่งซื้อ
    • พัฒนาฟังก์ชันการติดตามสถานะ
    • ทดสอบและตรวจสอบระบบการติดตาม
    • ส่งมอบให้ผู้ใช้ทดลองใช้

หลังจากแต่ละ Sprint จะมีการรีวิวการทำงานและการปรับปรุงกระบวนการทำงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพใน Sprint ถัดไป

ตัวอย่างการใช้ Agile สำหรับทีมการตลาด

ทีมการตลาดสามารถใช้ Agile ในการทำงานโดยการแบ่งงานเป็นรอบสั้นๆ (Sprint) และปรับปรุงการทำงานอย่างต่อเนื่องเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ เช่น การเพิ่มจำนวนลูกค้าใหม่หรือการเพิ่มยอดขาย

ขั้นตอนในการทำงานของทีมการตลาดใน Agile:

  1. Planning: วางแผนการทำแคมเปญการตลาดที่ต้องการ
  2. Sprint: ทีมทำงานในระยะเวลาสั้นๆ (2-4 สัปดาห์) โดยทำการทดสอบกลยุทธ์ใหม่ๆ และปรับปรุงตามผลลัพธ์ที่ได้
  3. Review: ตรวจสอบผลลัพธ์ของแคมเปญ เช่น จำนวนการเข้าชมเว็บไซต์หรือจำนวนลูกค้าที่เพิ่มขึ้น
  4. Retrospective: ทบทวนกระบวนการทำงานเพื่อเรียนรู้และปรับปรุงในรอบถัดไป

ตัวอย่างการทำงานใน Sprint ของทีมการตลาด:

  • Sprint 1 (2 สัปดาห์): ทดลองแคมเปญการตลาดออนไลน์
    • สร้างคอนเทนต์สำหรับโฆษณา
    • เปิดแคมเปญ Facebook Ads
    • ตรวจสอบผลลัพธ์ของแคมเปญ
    • ทบทวนผลลัพธ์และปรับปรุงใน Sprint ถัดไป
  • Sprint 2 (2 สัปดาห์): แคมเปญโปรโมชัน
    • ออกแบบโปรโมชันพิเศษ
    • ส่งโปรโมชั่นผ่านอีเมลและช่องทางออนไลน์
    • ติดตามและวิเคราะห์ผลลัพธ์
    • ปรับกลยุทธ์และเตรียมแคมเปญใหม่

สรุป:

  • OKR คือ การตั้งเป้าหมายและการวัดผลลัพธ์สำคัญในแต่ละช่วงเวลา เช่น ไตรมาส หรือ ปี โดยมุ่งเน้นการตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนและสามารถวัดผลได้
  • Agile คือ แนวทางการทำงานที่เน้นการพัฒนาอย่างยืดหยุ่นและรวดเร็ว โดยการทำงานในช่วงเวลาสั้นๆ (Sprint) และมีการทบทวนและปรับปรุงกระบวนการทำงานอย่างสม่ำเสมอ

ทั้ง OKR และ Agile สามารถนำมาใช้ร่วมกันได้ เพื่อช่วยให้องค์กรบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ พร้อมกับการพัฒนาอย่างยืดหยุ่นและปรับตัวตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

ปัญหาที่พบบ่อยในการใช้ OKR

ทดลองแอป my OKR IOS

ทดลองแอป my OKR Android

บทความที่เกี่ยวข้องกับ OKR เพิ่มเติม

ปัญหาที่พบบ่อยในการใช้ OKR

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *