การใช้ แอป OKR (Objectives and Key Results) เพื่อกำหนดเป้าหมายส่วนตัวและทีมสามารถช่วยให้ทั้งตัวบุคคลและทีมทำงานไปในทิศทางเดียวกัน เพิ่มความชัดเจนในการติดตามผลและช่วยให้สามารถประเมินผลสำเร็จได้อย่างมีระบบ ดังนั้น การใช้ OKR จะมีการแบ่งออกเป็น 2 ส่วนใหญ่ คือ ส่วนตัว และ ทีม ซึ่งทั้งสองนี้จะมีขั้นตอนการกำหนดเป้าหมายที่แตกต่างกันเล็กน้อย แต่หลักการโดยรวมจะคล้ายกัน

1. การใช้ OKR สำหรับ ส่วนตัว

การใช้ แอป OKR เพื่อกำหนดเป้าหมายส่วนตัวสามารถช่วยให้คุณมีการตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนและประเมินผลการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งขั้นตอนการตั้ง OKR สำหรับตัวเองสามารถทำได้ตามลำดับดังนี้

ขั้นตอนการตั้ง OKR สำหรับส่วนตัว

  1. กำหนด Objective (O)
    • Objective คือ “เป้าหมาย” ที่คุณต้องการบรรลุ ซึ่งควรจะเป็นเป้าหมายที่มีความท้าทายและแรงบันดาลใจ ควรกำหนดให้มีความชัดเจน แต่ยังยืดหยุ่นพอที่จะปรับเปลี่ยนได้ถ้าจำเป็น
    • ตัวอย่าง: “พัฒนาทักษะการเขียนโปรแกรมให้เชี่ยวชาญมากขึ้น” หรือ “สร้างสุขภาพที่ดีและแข็งแรงขึ้น”
  2. กำหนด Key Results (KR)
    • Key Results คือ “ผลลัพธ์หลัก” ที่ช่วยให้คุณสามารถวัดได้ว่าได้บรรลุ Objective หรือไม่ ควรกำหนด Key Results ให้มีลักษณะเฉพาะและสามารถวัดผลได้ (quantifiable)
    • ตัวอย่าง Key Results:
      • “เรียนคอร์สออนไลน์ 3 คอร์สในระยะเวลา 6 เดือน”
      • “เขียนโค้ดได้ 100 ชั่วโมงใน 3 เดือน”
      • “ลดน้ำหนักลง 5 กิโลกรัมภายใน 2 เดือน”
  3. ติดตามผล
    • ทุกๆ สิ้นสัปดาห์หรือเดือน ควรตรวจสอบความคืบหน้าของ Key Results และประเมินผลว่าคุณบรรลุผลตามที่ตั้งใจไว้หรือไม่ ถ้าผลลัพธ์ยังไม่ตรงตามที่คาดหวัง อาจต้องปรับวิธีการทำงานหรือเป้าหมายใหม่
  4. ปรับปรุงและเรียนรู้
    • ใช้ข้อมูลที่ได้จากการติดตามผลเพื่อปรับปรุงกลยุทธ์และวิธีการ เพื่อให้สามารถบรรลุเป้าหมายได้ดียิ่งขึ้นในอนาคต

2. การใช้ OKR สำหรับ ทีม

การใช้ OKR ในระดับทีมจะช่วยให้ทีมสามารถตั้งเป้าหมายร่วมกันและติดตามผลได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ทุกคนในทีมทำงานไปในทิศทางเดียวกัน โดยเฉพาะในองค์กรที่ต้องการการประสานงานระหว่างบุคคลหลายๆ คน ขั้นตอนการตั้ง OKR สำหรับทีมมีดังนี้:

ขั้นตอนการตั้ง OKR สำหรับทีม

  1. กำหนด Objective (O) สำหรับทีม
    • Objective สำหรับทีมคือการตั้งเป้าหมายใหญ่ที่ทีมต้องการบรรลุในช่วงเวลาหนึ่ง โดย Objective นี้ควรมีความชัดเจนและมีความทะเยอทะยาน ที่สามารถกระตุ้นให้ทีมทำงานร่วมกัน
    • ตัวอย่าง: “พัฒนาและปล่อยผลิตภัณฑ์ใหม่ภายใน 6 เดือน” หรือ “เพิ่มยอดขายรวมของทีมขึ้น 20% ในไตรมาสนี้”
  2. กำหนด Key Results (KR) สำหรับทีม
    • Key Results สำหรับทีมจะช่วยในการวัดความสำเร็จของ Objective ที่ตั้งไว้ ควรกำหนด Key Results ที่สามารถวัดได้ และเป็นเป้าหมายที่ชัดเจนสำหรับทุกคนในทีมตัวอย่าง Key Results:
      • “พัฒนาฟีเจอร์ใหม่เสร็จภายในเดือนที่ 3”“ได้รับข้อเสนอจากลูกค้าใหม่ 10 รายภายในไตรมาสนี้”“ลดเวลาในการแก้ไขปัญหาของลูกค้าลง 30%”
    หมายเหตุ: Key Results ควรจะเป็นผลลัพธ์ที่สามารถแบ่งหน้าที่กันในทีมได้ โดยมีกระบวนการที่ชัดเจนในการทำงานร่วมกัน เช่น แบ่งแยกหน้าที่ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์, การตลาด, การสนับสนุนลูกค้า ฯลฯ
  3. การสื่อสารและประสานงาน
    • ควรมีการประชุมหรือการอัปเดตประจำสัปดาห์เพื่อให้ทุกคนในทีมรับรู้ความคืบหน้าของการทำงาน และตรวจสอบว่าแต่ละคนหรือแต่ละหน่วยงานมีความคืบหน้าไปในทิศทางที่ตั้งไว้หรือไม่
    • ควรมีการปรับปรุงแผนการทำงานหากพบว่า Key Results บางตัวไม่สามารถทำได้ตามเป้าหมาย หรือมีปัญหาที่ต้องแก้ไขร่วมกัน
  4. ติดตามผลและปรับเป้าหมาย
    • คอยติดตามการทำงานของทีมตลอดระยะเวลาที่กำหนดไว้ และตรวจสอบผลสำเร็จของแต่ละ Key Result อย่างสม่ำเสมอ
    • ถ้าไม่สามารถบรรลุ Key Results ได้ภายในเวลาที่กำหนด ให้ทำการปรับแผนและกำหนด Key Results ใหม่ หรือเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานเพื่อให้บรรลุเป้าหมายได้
  5. การประเมินผลหลังสิ้นสุดรอบ OKR
    • เมื่อถึงสิ้นสุดของรอบ OKR เช่น การตั้งเป้าหมายในไตรมาสหรือครึ่งปี ควรมีการประชุมเพื่อตรวจสอบว่าทีมบรรลุ Objective หรือ Key Results ตามที่ตั้งไว้หรือไม่
    • ใช้ข้อมูลที่ได้มาประเมินว่าในรอบถัดไปควรปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง เพื่อให้ทีมสามารถบรรลุเป้าหมายได้ดียิ่งขึ้น

ตัวอย่างการใช้ OKR ในแอปพลิเคชัน

สมมติว่าเป้าหมายของคุณคือ “เพิ่มยอดขายผลิตภัณฑ์ A 20% ภายในสิ้นปี”

  • Objectives เพิ่มยอดขายผลิตภัณฑ์ A
  • Key Results
    • เพิ่มจำนวนลูกค้าใหม่ที่ซื้อผลิตภัณฑ์ A 10%
    • เพิ่มมูลค่าเฉลี่ยต่อการสั่งซื้อ 15%
    • ลดอัตราการยกเลิกคำสั่งซื้อลง 5%

สรุป

การใช้ แอป OKR ทั้งในระดับส่วนตัวและทีมจะช่วยให้ทั้งบุคคลและทีมสามารถกำหนดและติดตามเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการกำหนด Objective ที่ชัดเจนและมีความท้าทาย ร่วมกับ Key Results ที่สามารถวัดผลได้ชัดเจน เพื่อติดตามความคืบหน้าและปรับปรุงกลยุทธ์ตามความจำเป็น ช่วยให้การทำงานมีความมุ่งมั่นและบรรลุผลสำเร็จที่ต้องการ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *