แอปพลิเคชัน OKR (Objectives and Key Results) เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้บุคคลและทีมตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน วัดผลได้ และบรรลุผลสำเร็จตามที่ตั้งไว้ การใช้แอป OKR อย่างมีประสิทธิภาพจะช่วยให้คุณและทีมของคุณทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ขั้นตอนการใช้แอป OKR
- กำหนดเป้าหมาย (Objectives)
- เป้าหมายต้องชัดเจนและวัดผลได้ เป้าหมายควรเป็นสิ่งที่สามารถวัดผลได้ เช่น เพิ่มยอดขาย 20% ภายในสิ้นปี
- เป้าหมายต้องท้าทายแต่เป็นไปได้ เป้าหมายที่ท้าทายจะกระตุ้นให้ทีมทำงานหนักขึ้น แต่ก็ต้องเป็นไปได้จริง
- เป้าหมายต้องสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ เป้าหมายส่วนบุคคลและเป้าหมายของทีมควรสอดคล้องกับวิสัยทัศน์โดยรวมขององค์กร
- กำหนดผลลัพธ์ที่สำคัญ (Key Results)
- ผลลัพธ์ต้องวัดได้ ผลลัพธ์ที่สำคัญควรเป็นตัวเลขที่สามารถวัดได้ เช่น จำนวนลูกค้าใหม่, อัตราการตอบสนองของลูกค้า
- ผลลัพธ์ต้องเป็นเหตุเป็นผล ผลลัพธ์ที่สำคัญควรเชื่อมโยงโดยตรงกับเป้าหมาย
- ผลลัพธ์ต้องมีจำนวนจำกัด ไม่ควรมีผลลัพธ์ที่สำคัญมากเกินไป เพราะจะทำให้ยากต่อการติดตาม
- สร้างแผนปฏิบัติการ
- แบ่งงาน แบ่งงานให้กับสมาชิกในทีมแต่ละคน
- กำหนดตารางเวลา กำหนดตารางเวลาที่ชัดเจนสำหรับแต่ละงาน
- กำหนดทรัพยากร กำหนดทรัพยากรที่จำเป็นสำหรับการทำงาน เช่น งบประมาณ, บุคลากร
- ติดตามความคืบหน้า
- อัปเดตข้อมูลเป็นประจำ อัปเดตความคืบหน้าของงานเป็นประจำ
- วิเคราะห์ข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูลเพื่อดูว่ามีความคืบหน้าไปถึงไหน
- ปรับปรุงแผนงาน ปรับปรุงแผนงานเมื่อจำเป็น
- ทบทวนและประเมินผล
- ทบทวนเป้าหมาย ทบทวนเป้าหมายเป็นระยะเพื่อให้แน่ใจว่ายังคงมีความเกี่ยวข้อง
- ประเมินผลลัพธ์ ประเมินผลลัพธ์ที่ได้
- เรียนรู้จากความผิดพลาด เรียนรู้จากความผิดพลาดและนำมาปรับปรุงในครั้งต่อไป
ตัวอย่างการใช้ OKR ในแอปพลิเคชัน
สมมติว่าเป้าหมายของคุณคือ “เพิ่มยอดขายผลิตภัณฑ์ A 20% ภายในสิ้นปี”
- Objectives เพิ่มยอดขายผลิตภัณฑ์ A
- Key Results
- เพิ่มจำนวนลูกค้าใหม่ที่ซื้อผลิตภัณฑ์ A 10%
- เพิ่มมูลค่าเฉลี่ยต่อการสั่งซื้อ 15%
- ลดอัตราการยกเลิกคำสั่งซื้อลง 5%
แอป OKR จะช่วยให้สามารถติดตามความคืบหน้าของ Key Results เหล่านี้ได้อย่างง่ายดาย และเมื่อถึงสิ้นปี สามารถนำข้อมูลเหล่านี้มาวิเคราะห์เพื่อดูว่าบรรลุเป้าหมายหรือไม่ และอะไรคือปัจจัยที่ส่งผลต่อความสำเร็จ