OKR (Objectives and Key Results) เป็นเครื่องมือในการตั้งเป้าหมายและผลลัพธ์ที่สำคัญเพื่อช่วยในการติดตามและประเมินผลการทำงานในโครงการต่างๆ ในการจัดการโปรเจกต์, OKR สามารถใช้เพื่อให้ทีมมีความชัดเจนในเป้าหมายร่วมกัน และสามารถวัดผลลัพธ์ได้ง่ายขึ้น ตัวอย่าง OKR ที่ดีควรมี ดังนี้

โครงสร้างของ OKR

  1. Objectives (O): เป้าหมายที่ต้องการบรรลุ
  2. Key Results (KR): ผลลัพธ์สำคัญที่ใช้ในการวัดความสำเร็จของเป้าหมาย

ตัวอย่าง OKR สำหรับการจัดการโปรเจกต์

1. OKR สำหรับการเปิดตัวโปรเจกต์ใหม่

Objective: เปิดตัวโปรเจกต์ใหม่ให้สำเร็จและมีความพร้อมในการใช้งานภายในไตรมาสนี้

  • Key Result 1: พัฒนาและทดสอบฟีเจอร์หลักของโปรเจกต์เสร็จสมบูรณ์ 100%
  • Key Result 2: สร้างและฝึกอบรมทีมสนับสนุนลูกค้าเกี่ยวกับโปรเจกต์นี้เสร็จสิ้น 100%
  • Key Result 3: ได้รับคำติชมจากผู้ใช้เบื้องต้นอย่างน้อย 100 คนภายใน 1 เดือนหลังจากเปิดตัว
  • Key Result 4: เพิ่มการเข้าถึงและการใช้งานของผู้ใช้ใหม่อย่างน้อย 30% ในช่วง 3 เดือนแรก

คำอธิบาย: ในตัวอย่างนี้ เป้าหมายหลัก (Objective) คือการเปิดตัวโปรเจกต์ใหม่ให้สำเร็จ, และผลลัพธ์ที่สำคัญ (Key Results) จะช่วยวัดความสำเร็จในด้านต่างๆ เช่น การพัฒนาฟีเจอร์, การฝึกอบรมทีม, การรับฟังคำติชมจากผู้ใช้ และการเพิ่มการใช้งานจากผู้ใช้ใหม่

2. OKR สำหรับการปรับปรุงกระบวนการภายในทีม

Objective: ปรับปรุงประสิทธิภาพในการทำงานของทีมให้มีความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

  • Key Result 1: ลดระยะเวลาการพัฒนาโปรเจกต์จาก 4 สัปดาห์เป็น 3 สัปดาห์ภายในไตรมาสนี้
  • Key Result 2: เพิ่มอัตราการทดสอบ (testing coverage) ในโค้ดจาก 60% เป็น 85%
  • Key Result 3: จัดการประชุมประจำสัปดาห์ให้มีประสิทธิภาพโดยลดเวลาในการประชุมลงจาก 2 ชั่วโมงเป็น 1 ชั่วโมง
  • Key Result 4: บริหารจัดการความเสี่ยงของโปรเจกต์ด้วยการมีแผนรับมือ 100% สำหรับทุกโปรเจกต์ในไตรมาสนี้

คำอธิบาย: เป้าหมายหลักคือการปรับปรุงประสิทธิภาพของทีมในด้านต่างๆ เช่น การลดระยะเวลาในการพัฒนา, การเพิ่มคุณภาพการทดสอบ, การทำประชุมให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น, และการจัดการความเสี่ยงในการทำโปรเจกต์

3. OKR สำหรับการปรับปรุงความพึงพอใจของลูกค้าในโปรเจกต์

Objective: เพิ่มความพึงพอใจของลูกค้าในโปรเจกต์ให้สูงขึ้น

  • Key Result 1: เพิ่มคะแนน NPS (Net Promoter Score) จาก 50 เป็น 70
  • Key Result 2: ลดปัญหาที่เกิดขึ้นจากลูกค้าด้วยการเพิ่มการซัพพอร์ตจาก 2 ครั้งต่อเดือนเป็น 5 ครั้งต่อเดือน
  • Key Result 3: สร้างและส่งแบบสอบถามความคิดเห็นจากลูกค้าอย่างน้อย 300 ราย
  • Key Result 4: ลดเวลาในการตอบกลับลูกค้าจาก 48 ชั่วโมงเป็น 12 ชั่วโมง

คำอธิบาย: เป้าหมายหลักคือการเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้า ซึ่งสามารถวัดผลได้จากคะแนน NPS, จำนวนการซัพพอร์ตที่เพิ่มขึ้น, ความคิดเห็นจากลูกค้า, และความเร็วในการตอบสนองต่อลูกค้า

เคล็ดลับในการเขียน OKR ที่ดี

  • ชัดเจนและวัดผลได้ Key Results ควรเป็นตัวเลขที่สามารถวัดได้และมีระยะเวลาที่ชัดเจน
  • ท้าทายแต่เป็นไปได้ OKR ควรกระตุ้นให้ทีมทำงานหนักขึ้น แต่ไม่ยากเกินไปจนทำให้ท้อแท้
  • สอดคล้องกับเป้าหมายองค์กร OKR ของแต่ละโครงการควรสอดคล้องกับเป้าหมายโดยรวมขององค์กร
  • มีส่วนร่วม ควรให้ทีมมีส่วนร่วมในการตั้งเป้าหมายเพื่อเพิ่มความรับผิดชอบและแรงจูงใจ
  • ทบทวนและปรับปรุงอย่างสม่ำเสมอ OKR ควรถูกทบทวนและปรับปรุงอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง

ข้อควรจำ

  • OKR ไม่ใช่แค่เครื่องมือในการตั้งเป้าหมาย แต่ยังเป็นเครื่องมือในการติดตามความคืบหน้าและปรับปรุงการทำงานอย่างต่อเนื่อง
  • การใช้ OKR จะมีประสิทธิภาพมากขึ้นเมื่อมีการสื่อสารและความร่วมมือกันภายในทีม

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *